หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สอนเต้นบีบอยท่าอินเดียนสเต็ป(Indian step)


ท่าอินเดียนสเต็ป(Indian step)

ท่าอินเดียนสเต็ป(Indian step)ใช้คล้ายๆกับท่าทอปร็อค(Toprock)แต่ชั้นตอนจะมากขึ้นมานิดหน่อย ลักษณะและอารมณ์ของท่าดูแล้วคล้ายๆนักมวยมี่กำลังโยกซ้ายโยกขวาหลอกล่อคู่ต่อสู้ เป็นท่าที่ดูแล้วคล่องตัว ความสวยงามของท่านี้จะอยู่ในความเร็วที่เหมาะสม

เรามาผ่าดูว่าทำกันยังไง
ท่าวอร์ม




1.สลัดข้อเท้าทั้งสองข้างสลับกัน 2.บิดเอวไปด้านซ้ายและด้านขวาสลับกัน 3.เตะเท้าไปด้านหน้าและด้านข้าง 4.สับขาขึ้น-ลง อยู่กับที่ 5.เหวี่ยงแขนไปด้านข้าง



วิธีทำ
ขั้นตอนที่1 ขั้นนี้จะเป็นท่าเตรียมนั่นเอง ง่ายๆเด็กอนุบาลก็ทำได้ นั่นก็คือท่ายืนตรงนั่นเองไม่ต้องไปคิดอะไรมาก^^
ขั้นตอนที่ 2 เตะเท้าซ้ายไปข้างหน้าไม่ต้องสูงเอาแค่ให่ห่างจากพื้นประมาณคืบหนึ่ง หรือ หนึ่งฝ่ามือนั่นเอง คาดคะเน ใช้ความรู้สึกเอานะ ไม่ต้องลงทุนลองวัดดูจริงๆก็ได้
ขั้นตอนที่ 3 กระโดดด้วยเท้าขวาข้างเดียวให้ลอยจากพื้นนิดนึงในเสี้ยววินาทีที่ลอยบนอากาศ ให้สลับเอาขาซ้ายลงมา จะเห็นว่าขาทั้งสองทำท่างทางสลัลกัน ตอนนี้เท้าขวายกอยู่สูงจากพื้นคืบนึง
ขั้นตอนที่ 4 ตบเท้าขวาลงสู่พื้นด้านซ้าย เท้าซ้ายบิดตามมือกวักไปด้านขวาต้านทิศทางแรงบิดของเอว
ขั้นตอนที่ 5 บิดตัวยกเท้าขวากลับมา และสลับขาอีก และใช้ขาซ้ายตบไปด้านขวา ซึ่งก็คือทำสลับข้างตบไปเรื่อยๆ



ท่านี้เป็นท่าพื้นฐานที่ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว คุณสามารถปรับเปลี่ยนเป็นของตนได้ ข้างที่นำมาสอนเป็นข้าที่ผมถนัด หากคุณถนัดข้างไหนก็สลับเอานะครับ สู้ๆ

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สอนเต้นบีบอยท่าทอปร็อค(Toprock)


ท่าทอปร็อค(Toprock)

   เป็นท่าเบสิกมากๆเลย เชื่อว่าหลายคนที่สอนรุ่นน้อง คงเริ่มต้นสอนด้วยท่านี้ซะส่วนมากนะ เพราะง่ายๆเล่นไม่ยาก ประโยชน์คือใช้เป็นท่าเริ่มต้นหรือเตรียมตัวของเซตท่าต่างๆ ใช้วอร์มก็ได้ เรามาดูกันดีกว่าว่าทำแบบไหนกัน ผมจะแบ่งเป็นทอปร็อค 3 แบบ

1.ทอปร็อคด้านหน้า(Front Toprock)
2.ทอปร็อคด้านข้าง(Side Toprock)
3.ทอปร็อคด้านหลัง(Back Toprock)


ทอปร็อคด้านหน้า(Front Toprock)
1.ตามระเบียบพัก!!! เอ้ย!!! ไม่ใช่แล้ว ฮ่าๆๆๆ เอาล่ะอย่างแรกเลยก็ยืนกางขาซักประมาณครึ่งก้าว แล้วมือทั้งสองก็ปล่อยตามยถากรรม
2.ยกมือขึ้นมาระดับหน้าอกของเรา พร้อมกับบิดเท้าซ้ายไปด้านซ้าย 90 องศา หรือมุมฉากนั่นเอง ยกเท้าขวาไปแตะพื้นด้านหน้าในจังหวะเดียวกันกับมือที่กางออก
3.ยกเท้าขวากลับมาพร้อมกันกับมือที่หุบเข้ามาหาหน้าอก ส่วนเท้าซ้ายก็บิดกลับมาแล้วเราจะอยู่ในท่ากางขาครึ่งก้าวเช่นเดิม แต่มือยังคงยกไว้เพื่อเตรียมทำในครั้งต่อไปโดยสลับข้าง


ทอปร็อคด้านข้าง(Side Toprock)
1.ยืนกางขาครึ่งก้าวเหมือนกันกับข้อ 1 ข้างบน
2.ยกมือขึ้นมาระดับอก พร้อมกับบิดเท้าซ้ายเล็กๆน้อยๆ จังหวะเดียวกันกับยกเท้าขวาไปแตะพื้นด้านซ้ายพร้อมกางมือออก
3.ยกเท้าขวากลับมาในท่ากางขาครึ่งก้าวเท้าซ้ายบิดกลับมาที่เดิม มือก็มาอยู่ที่ระดับหน้าอกและทำซ้ำไปเรื่อยๆโดยเปลี่ยนข้าง


ทอปร็อคด้านหลัง(Back Toprock)
1.ยืนอยู่ในท่าเตรียมเช่นเดิม
2.เคลื่อนเท้าขวาไปด้านหลังเฉียงๆ คล้ายๆกับสับขาหลอก พร้อมกับกางแขน
3.ดึงเท้ากลับมาพร้อมกับหุบมือมาอยู่ที่ระดับหน้าอก
4.ทำสลับข้างไปเรื่อยๆ


ท่านี้เป็นท่าพื้นฐานง่ายๆ พื้นฐานอยู่ที่การก้าวขา,เหวี่ยงแขน ขั้นตอนเหล่านี้ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว สามารถดัดแปลงเป็นของตัวเองได้

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การเต้นบีบอยรูปแบบต่างๆ

วิธีเต้นบีบอย,สอนเต้นบีบอย
           

การเต้นบีบอยมีแบบไหนบ้างนะ???

การเต้นบีบอยมีหลากหลายสไตล์ ทุกคนย่อมมีแบบที่ตัวเองชอบและถนัด ทุกคนอาจชอบไม่เหมือนกัน มีอิสระในความคิด นี่แหละทำให้เกิดการเต้นแต่ละรูปแบบขึ้นมา มีอะไรบ้าง ไปดูกัน

การเต้นแบสไตล์(Style)
การเต้นแบสไตล์เป็นการเต้นที่ใช้ท่าเต้นง่ายๆฝึกฝนไม่นานก็เป็น เป็นท่วงท่าที่ไม่ดุดัน อารมณ์ในการเต้นจะเป็นแบบสบายๆไม่ได้เกร็งอะไร การเต้นแนวนี้จะเหมาะมากๆสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นหรือมือใหม่หัดแดนซ์เพราะง่ายที่สุด
   ท่าที่เห็นบ่อยๆก็เช่น
◎ทอปร็อค(Toprock)
◎อินเดียนสเต็ป(Indian step)
◎ซิกซ์สเต็ป(Six step)
◎ฟลีส(Freeze)
  มีอีกเยอะแยะแล้วผมจะเขียนให้อ่านต่อไปคราวหน้า

การเต้นแบบพาวเวอร์มูฟ(Power move)
   แปลตรงๆเลยจะได้ว่า
Power = พลัง
Move=การเคลื่อนย้าย,เคลื่อนที่
Power move=การเคลื่อนที่อย่างมีพลัง
       การเต้นแบบพาวเวอร์มูฟเป็นรูปแบบการเต้นที่ต่างจากสไตล์ เพราะใช้กำลังมากและดุดัน จะเป็นแนวสปิน(spin)แบบที่เห็นนั่นแหละจะเป็นแบบหมุนๆ ซึ่งพาวเวอร์มูฟจะยากมากกว่า ใช้เวลาในการฝึกมากกว่า อันตรายและผาดโผนมากกว่า เท่ห์กว่า ฮ่าๆๆๆๆผมชอบ^^ ซึ่งแบบนี้ก็ต้องระวังกันหน่อยเซฟดีๆ ใครที่เลือกจะเต้นแนวนี้ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ต้องอดทน ขยัน อย่าท้อครับ มันยากก็จริงอยู่ แต่หลังจากนั้นเราจะภูมิใจกับการฝึกของเราเมื่อทำได้ เมื่อเราทำได้ในแต่ละท่วงท่าอย่างชำนาญแล้ว ให้นำท่ามาผสมผสานกัน กลายเป็น Power move และใส่เอกลักษณ์ของตัวเอง
   ท่าต่างๆที่นำมารวมกันที่เห็นบ่อยๆก็
◎วินมิล(Windmill)
◎โทมัส แฟล(Tomus Flare)
◎แอแทรก(Airtrack)
◎ฮาโล(Halo)
◎เฮดสปิน(Head spin)
   โฮ้!!!!อีกเยอะให้ไล่หมดก็ไม่รู้จะหมดมั้ย
เรานำแต่ละท่ามาต่อกันให้เป็นการเคลื่อนที่อย่างสวยงาม แข็งแรงดุดันได้ แล้วจะพบกับสเน่ห์ของ พาวเวอร์มูฟ

การเต้นแบบผสม(Mix dance)
   แค่ชื่อก็รู้ว่ามันไม่ใช่แบบเดียวแน่นั่ง เอ้ยย!! แน่นอน การเต้นแบบนี้จะมีความเป็นอิสระมาก อาจเต้นแบบสไตล์เริ่มต้นแล้วผันมาพาวเวอร์มูฟไปด้วยก็ได้ บางคนอาจเคยเต้นฮิปฮอป ปอบปิ้ง ฟรีรันนิ่ง อีบีจิ้ง(มีด้วยหรอ ฮ่าๆๆๆ) นั่นแหละก็ใช้ผสมกันไปตามความคิดสร้างสรรค์

     ไม่ว่าการเต้นจะมีมากมายหลายรูปแบแค่ไหน สิ่งสำคัญคือความเป็นตัวของตัวเอง ความถนัด ความขยันอดทน และก็ตั้งใจนะครับเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ^^

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อยากเต้น B boy เริ่มต้นอย่างไร

วิธีเต้นบีบอย,สอนเต้นบีบอย,เทคนิคการเต้น


       สำหรับคนที่เปิดอ่านบทความนี้คงสนใจการเต้นบีบอยอยู่ใช่มั้ยล่ะ???(ก็ใช่น่ะสิไม่งั้นคงไม่เปิดมาหรอก^^)บางคนเห็นคนอื่นเต้นแล้วเท่ห์ บางคนมีเพื่อนหรือคนรอบข้างชวน บางคนอยากลองอะไรใหม่ๆ  ทำเป็นกิจกรรมในเวลาว่าง บางคนเต้นเพื่อการออกกำลังกาย บางคน.........ฮู้!!!!เยอะแยะมากมายสารพัดเหตุผลที่มาเต้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การเต้นไม่ได้มีผลเสียอะไรเลยนอกจากการบาดเจ็บหากหักโหมเกินความสามารถของร่างกาย และความผิดพลาดของตัวเอง อันนี้ต้องนะวังกันหน่อย มาดูกัน

      อยากเต้น B boy ทำอย่างไรอันดับแรก ทำยังไงก่อนดี??

   1.ถามใจตัวเอง?
ร่างกายคือสิ่งที่จะทำการต่างๆเมื่อศูนย์บัญชาการ(สมอง)สั่งให้ทำ แล้วเราจะทำมั้ยถ้าเราไม่อยากทำ คำตอบคือ ไม่!!ถ้าไม่ถูกบังคับหรือฝืนใจ
ดังนั้นเราจะเต้นบีบอยนะ ใจเรารักมั้ย?? กล้าที่จะทำกล้าที่จะแสดงออกมั้ย ทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ด้วยความคิด จิตใจที่มั่นคง มุ่งมั่น แน่วแน่  วันหนึ่งผมนั่งดูไทยแลนด์สก็อตทาเลนท์คนที่พิการขาขาดที่เต้นบีบอยได้ก็มี เพราะอะไรล่ะ?? จิตใจไงล่ะ ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาไม่สมบูรณ์ครบส่วน แต่จิตใจที่ไม่ยอมแพ้ไม่ย่อท้อต่อสิ่งต่างๆ  ก็สามารถทำในสิ่งที่คนอื่นไม่คาดคิดได้

   2.ร่างกายพร้อมหรือยัง?
การเต้นจะมีประสิทธิภาพหากร่างกายแข็งแรง เพราะนี่คือปัจจัยหลักซึ่งการเต้นเป็นการเคลื่อนไหวของร่างกายตามอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดสไตล์แบบต่างๆ ของตัวเอง น้ำหนักของร่างกายไม่ควรเกิน 60 กก. เพื่อความคล่องตัว สำหรับคนร่างเล็กไม่ค่อยบึ้กหรือไม่แข็งแรง ควรหมั่นออกกำลังกาย กินอาหารเน้นเน้นจำพวกโปรตีนนะ เพราะโปรตีนเป็นส่วนประกอบของกล้ามเนื้อ ส่วนการออกกำลังกายถ้าเป็นแบบ วิดพื้น ซิทอัพ ดึงข้อ คือประเภทนับ ก็แรกๆได้แค่ไหนก็เอาแค่น้้นอย่าหักโหม ให้ค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ หากเป็นคนเหนื่อยง่ายให้ซ้อมวิ่งเยอะๆเป็นการกระตุ้นขยายปอด

   3.พื้นฐานอย่ามองข้าม!
ถ้าคิดว่าพื้นฐานไม่สำคัญ ไม่เห็นเท่ห์เลย หยุดความคิดซะ! ทุกท่วงท่าลีลาโลดโผนที่เห็นแบบเท่ห์ๆนั้น อย่าเพิ่งไปทำ

ขอยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ
คนเราเกิดมา จะเดินเป็นก็ต้องคลานไปก่อน และก่อนจะวิ่งได้ก็ต้องเดินให้เป็นก่อน

จะเห็นได้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามลำดับ ฉะนั้นอย่ารีบร้อนนะวัยรุ่น


   4.หมั่นไส้ เอ้ย!! หมั่นฝึกซ้อม
ไม่มีใครที่เก่งโดยไม่ฝึกซ้อมหรอกนะ ไม่มีใครที่ทำครั้งแรกแล้วได้เลย ถ้าใจเรารักจริงๆเราจะทำมันบ่อยๆ เช่นเดียวกับพวกติดเกมส์ที่ต้องการเสพเกมส์เรื่อยๆ(อันนี้ไม่ได้แนะนำให้ติดเกมส์นะ)
ยิ่งทำบ่อยแค่ไหนยิ่งชำนาญ และไม่มีใครที่ไม่เคยผิดพลาด เราจะเต้นเก่งเต้นดีแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความขยันซ้อม

   5.อย่าคิดว่าทำไม่ได้
อย่างที่สาธยายไว้ข้างบน ในการเต้นสิ่งสำคัญคือจิตใจและร่างกายที่ทำงานอย่างสัมพันธ์กัน หากเราคิดว่า"เราต้องทำได้สิ"ไม่นานหรอกก็จะทำได้ อย่างตัวผมก็อย่างว่าแหละ ช่วงแรกๆก็ทำไม่ได้ หยุดสักพักไม่มีอะไรทำก็มาทำใหม่ เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ทำได้

   6.อย่าลอกเลียนแบบคนอื่น
อันนี้ก็สำคัญนะขอบอก ยกตัวอย่างผมอีกนะ ผมเคยคิดท่าของตัวเองสไตล์ตัวเองที่เต้นแล้วคล่องพลิ้วสบาย แต่มีคนที่เต้นด้วยกันลอกไปหมดเกลี้ยงเลย เป็นคนโดนก๊อปจะรู้สึกดีมั้ย และอีกอย่างควรใช้ความคิดของตัวเอง อาจจะคิดขึ้นใหม่หรือดัดแปลงของคนอื่นก็ได้เพราะใช้ความคิดเช่นกัน

   7.มั่นใจและมันส์กับท่าเต้นของเรา
เต้นให้เป็นธรรมชาติสบายที่สุด ได้อารมณ์ ในท่าที่เราคิดขึ้นมาต้องมีคนสนใจแน่ ถ้าเป็นท่าดิบๆธรรมดาๆไม่มีการใส่สไตล์ของตัวเองมันก็จะดูหน้าเบื่อ ธรรมดา งั้นๆ

    สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนตั้งใจ และทำด้วยใจ หมั่นฝึกฝน เต้นแบบที่เราชอบหรือถนัดนะครับ

คมดาบที่น่าสนใจ